ดูดไขมันนมน้อย หมอลดา (คุณหมอหนูใหม่) phuma clinic

ดูดไขมันนมน้อย (Accessory Breast Liposuction)

“ดูดไขมันนมน้อย” หรือก้อนเนื้อใต้รักแร้  (Accessory Breast Liposuction) เป็นก้อนเนื้อของเต้านมที่เจริญเติบโตยื่นเข้าไปในรักแร้ ลักษณะเหมือนเป็นเต้านมอีกคู่ที่โตบริเวณใต้รักแร้ ในบางคนจะเกิดเป็นลานนม พัฒนาเป็นหัวนม แล้วมีน้ำนมหรือเลือดไหลออกมาได้ จึงสร้างความเจ็บปวดเพราะอยู่บริเวณที่ได้รับการเสียดสีบ่อย ทำให้หุบรักแร้ไม่ได้เกิดความไม่สบายตัว โดยปกติแล้วหมอจะดูดไขมันนมน้อย พร้อมกับการดูดไขมันต้นแขนออกไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เนื้อใต้รักแร้ดูเรียบ เรียวกระชับ

ก้อนเนื้อนมน้อยใต้รักแร้ เกิดจากอะไร?

ดูดไขมันนมน้อย หมอลดา (คุณหมอหนูใหม่) phuma clinic

นมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ ที่เกิดจากไขมันส่วนเกินสะสม จะพบได้ประมาณ 2-6% ในผู้หญิง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเกิดจาก เซลล์เต้านม มีการกระจายไปเจริญเติบโตตามแนวเต้านม เป็นไปได้ตั้งแต่หัวไหล่ รักแร้ หรือไปถึงสะดือ และอาจพบได้ในผู้ชายได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยมาก

การรักษา นมน้อย หรือก้อนเนื้อใต้รักแร้ มี 2 วิธี คือ

  1. ดูดไขมันใต้รักแร้ หรือดูดไขมันนมน้อย โดยใช้เครื่องมือดูดไขมันเพื่อดูดไขมันส่วนนั้นออกมา จนผิวยุบตัว แผลเล็ก เหมาะกับเต้านมที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอย่างเห็นได้ชัด เป็นไขมันอย่างเดียว
  2. ผ่าตัดก้อนเนื้อใต้รักแร้ หรือผ่าตัดนมน้อย การตัดเอาก้อนเนื้อส่วนเกิน หรือ หนังห้อย ข้อเสียคือมีรอยแผลที่ต้องรักษานานพอสมควร โดยแผลจะซ่อนไว้ใต้รักแร้

ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ เจ็บไหม?

โดยวิธีดูดไขมันนมน้อยในปัจจุบัน เป็นการดูดไขมันนมน้อยด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน โดยยาชาที่ผสมในน้ำเกลือลงไปนั้นจะช่วยลดความเจ็บปวด น้ำเกลือจะไปทำให้ไขมันแตกตัวและดูดไขมันออกได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีการดูดไขมันนมน้อยเป็นหลักที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้จนถึงทุกวันนี้ โดยแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ และสอดท่อเข้าไปในบริเวณที่ต้องการที่จะดูดไขมันออก 

ดูดไขมัน “นมน้อย” เจ็บไหม? การดูดไขมันนมน้อยเจ็บเฉพาะเวลาฉีดยาชา ซึ่งเป็นความเจ็บที่เกิดจากเข็มเพียงเล็กน้อย โดยแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำการดูดไขมัน เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว หลังจากนั้นในช่วงแรกไปถึงช่วงกลางๆ ของการดูดไขมัน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ หรือแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อดูดไขมันไปได้สักพักหนึ่ง ไขมันบริเวณที่ดูดใกล้หมดแล้ว แต่ยังมีไขมันที่ยังมีติดอยู่บ้างใกล้ๆกับผิวหนังและกล้ามเนื้อ เมื่อชั้นไขมันบางลง บริเวณนี้คนไข้อาจจะมีความรู้สึกเจ็บ หรือเจ็บแปลบๆ บ้างในบางครั้ง และไม่ตลอดเวลา

ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ ต้องวางยาสลบไหม?

โดยทั่วไปการดูดไขมันนมน้อย มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีการดูดไขมันนมน้อยแบบดั้งเดิมโดยการใช้ยาสลบ และการดูดไขมันนมน้อยด้วยวิธีปัจจุบัน โดยการดูดไขมันนมน้อยด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน ซึ่งทั้งสองวิธีการมีผลข้างเคียงที่ต่างกัน โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพร่างกายของคนไข้ และจากการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันการเลือกใช้วิธีการใช้ยาชาเฉพาะส่วน เป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากยาชามีผลข้างเคียงน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็ว คนไข้รู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหยุดหายใจ สามารถกลับบ้านได้เลยหลังการดูดไขมันเสร็จ เนื่องจากไม่มีสารออกฤทธิ์ที่กดการหายใจตกค้างในร่างกายของคนไข้

ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ ที่ PHUMA CLINIC ด้วยเครื่อง MicroAire PAL

MicroAire PAL เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันโดยการสั่นสะเทือนรอบสูงจากท่อที่ดูดไขมัน เพื่อช่วยในการสลายไขมันให้แตกตัวออกจากกัน โดยไม่ใช้ความร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ และหลังจากนั้นเครื่องจะดูดไขมันออกมาอย่างอัตโนมัติด้วยระบบสั่น ทำให้ไขมันไหลออกมาได้ง่ายดาย เพราะความถี่ในการสั่นส่งผลให้ดูดไขมันได้ปริมาณมาก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ และช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง รวมไปถึงเนื้อเยื่อเคียงได้

ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเครื่อง MicroAire PAL

  • ใช้เวลาน้อยในการดูดไขมัน

  • ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก และดูดไขมันออกได้ง่าย

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมันได้ดี

  • แผลเล็ก เจ็บน้อย หลังทำการดูดไขมันเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที

  • สามารถดูดไขมันบริเวณที่เป็นพังผืดได้ และบริเวณที่ดูดยาก หรือ บริเวณที่เคยดูดมาก่อน

  • ไม่เกิดความร้อนสะสม ไม่ทำให้เกิดผิวไหม้ ไม่เป็นคลื่น คล้ายเป็นเปลือกส้ม
เครื่องดูดไขมัน MicroAire PAL หมอลดา (หมอหนูใหม่) Phuma clinic
ก่อนดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

ในปัจจุบันการดูดไขมันนมน้อย ถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ เปลี่ยนหุ่นให้กระชับ ปรับรูปร่างให้ดูสวยงาม ฉะนั้นผู้ที่สนใจจะดูดไขมันนมน้อย ควรศึกษาข้อมูลและควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมัน เพื่อความปลอดภัยและทำให้เกิดผลการรักษาที่ดีกับคนไข้ การเตรียมความพร้อมต้องทำอย่างไรบ้าง

  1. ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน

  2. ก่อนจะเลือกดูดไขมัน ควรดูดไขมันกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น

  3. ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ภาวะการติดเชื้อ การแข็งตัวของเลือด ความสมดุลของสารน้ำในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง

  4. ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วัน เท่านั้น

  5. ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี ยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์

  6. ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้

  7. ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน

Phuma clinic (ภูม่า) พญ.ชลดา วิรัตกพันธ์ (ดูดไขมัน)

ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนเนื้อใต้รักแร้ มีขั้นตอนอย่างไร?

ขั้นตอนการดูดไขมัน สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจดูดไขมันนมน้อย ควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันและขั้นตอนการดูดไขมันนมน้อย ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง การดูดไขมัน “นมน้อย” เป็นการนำไขมันสะสมส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย จึงสามารถช่วยแก้ปัญหา ทำให้รูปร่างให้สมส่วน เสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว 

Phuma clinic เราจึงมี ขั้นตอนการดูดไขมัน มาให้ผู้ที่จะเตรียมตัวดูดไขมันได้อ่านเพื่อให้ศึกษาก่อนมาดูดไขมันนมน้อย ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

1. การฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Tumescent)

แพทย์จะฉีดยาชาเพื่อเปิดแผล ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. หลังจากนั้นตัวยาชาและอะดรีนาลีนจะเข้าสู่บริเวณส่วนที่จะทำการดูดไขมันหน้าท้อง ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคการดูดไขมันหน้าท้อง ที่จะช่วยลดการสูญเสียเลือด เพิ่มความปลอดภัย และยังช่วยให้ดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย

2. ขั้นตอนการสลายชั้นไขมันนมน้อย

หลังจากใส่ยาชาจนทั่วบริเวณที่จะดูดไขมันแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ เพื่อทำการสลายเซลล์ไขมันให้แตกออกโดยที่ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น เส้นเลือด หรือเส้นประสาท เมื่อไขมันแตกสลายเป็นน้ำหมดแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันออก โดยใช้เครื่องดูดไขมัน

3. ขั้นตอนหลังดูดไขมันนมน้อย

เมื่อดูดไขมันหน้าท้องเสร็จแล้ว แพทย์จะเย็บแผล ซึ่งมีขนาดเล็กเย็บไม่เกิน 2 เข็ม เพราะการดูดไขมันนมน้อย แพทย์จะเปิดแผลเล็กมาก หลังการดูดไขมันน้ำเกลือจะไหลออกจากปากแผลไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง โดยแพทย์จะเย็บแผลให้ปิดไม่สนิท เพื่อต้องการให้ระบายน้ำเกลือและยาชาที่เหลือออกจากร่างกาย และยังช่วยลดอาการบวม ยุบบวมได้อย่างรวดเร็ว หลังการรักษาคนไข้ต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงห้ามให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาดจนกว่าจะตัดไหม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ขั้นตอนการดูดไขมัน หมอลดา (คุณหมอหนูใหม่) Phuma clinic

หลังดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนไขมันใต้รักแร้ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?

การปฏิบัติตัวหลังจากการดูดไขมันนมน้อย การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันก็เป็นสิ่งสำคัญ และยังสามารถช่วยให้แผลจากการดูดไขมันหายเร็วขึ้น การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันมีข้อปฏิบัติตัวต่าง ๆ ดังนี้

  1. ควรดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร

  2. แผลเย็บด้วยไหมชนิดต้องตัดออก ต้องดำเนินการตัดโดยแพทย์ โดยจะนัดตัดไหมที่ 1 สัปดาห์

  3. งดการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด และสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังการดูดไขมันหน้าท้องได้ 3 สัปดาห์ และออกกำลังหนักได้หลังการดูดไขมันนมน้อยได้ 6 สัปดาห์

  4. อาการบวม ช้ำ และอาการปวด จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อาการบวมจะเป็นนานมากที่สุด ซึ่งอาจจะนานถึง 3 เดือน 

  5. งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า

  6. ควรทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน โดยแผลห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 7 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์

  7. หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ

  8. งดอาบน้ำหลังจากดูดไขมัน โดยแนะนำเป็นการอาบน้ำในวันถัดไป และควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ

  9. ในช่วง 1 เดือนแรกควรสวมชุดกระชับเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ให้ถอดได้เฉพาะเวลาอาบน้ำ หรือ วันละ 1-2 ชม. ในเดือนที่ 2-3 ให้ใส่วันละ 12 ชม. ทั้งนี้เพื่อให้ผิวหนังมีความกระชับ ได้รูปที่สวยงามสวมหลังจากนั้นจึงค่อยลดลงตามความเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์

  10. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันทุกวันจนหมด ควรรับประทานยาแก้ปวด และยาลดอาการบวม เมื่อมีอาการเท่านั้น

Phuma clinic (ภูม่า) พญ.ชลดา วิรัตกพันธ์ (ดูดไขมัน)

ทำไมต้องเลือก ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนไขมันใต้รักแร้ ที่ PHUMA CLINIC

Phuma clinic (ภูม่า) พญ.ชลดา วิรัตกพันธ์ (ดูดไขมัน)
  • Phuma clinic มีแพทย์ผู้ชำนาญประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสดูดไขมันมากกว่า 20,000 เคส โดยออกแบบรูปร่างและสัดส่วนที่คุณต้องการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

  • เรามีเทคโนโลยีในการดูดไขมันระดับแนวหน้า ที่มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อย

  • คลินิกสะอาด ปลอดภัย ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน เครื่องมือทันสมัย

  • ดูแลลูกค้าต่อเนื่องหลังเข้ารับบริการระดับมืออาชีพ 

  • บริการด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ จริงใจ ตรงไปตรงมา ให้ความชัดเจนกับลูกค้า และให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ 

การใส่ชุดกระชับ หลังดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนไขมันใต้รักแร้ "สำคัญ" อย่างไร

การดูดไขมันนมน้อย ออกมานั้นเป็นการกำจัดไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยจะอยู่ระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นหลังจากที่เราดูดไขมันหน้าท้องออกมาแล้ว จึงเกิดช่องว่างภายใต้ผิวหนังเกิดขึ้น ช่องว่างนี้จะมีลักษณะเป็นโพรง เราจึงต้องรีบปิดช่องว่างนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังอยู่ในสภาวะย้วยหรือหย่อนคล้อย

การใส่ชุดกระชับบริเวณนมน้อย เป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันที่สำคัญมาก เพราะสัดส่วนของเราจะเข้าที่เร็วขึ้นหรือช้าขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสวมชุดกระชับสัดส่วนด้วย ยิ่งสวมนานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผิวหนังติดกับชั้นกล้ามเนื้อได้เร็วเท่านั้น 

ประโยชน์ของชุดกระชับหลังการดูดไขมันนมน้อย

  • ช่วยลดผลข้างเคียงจากการดูดไขมันนมน้อย

  • ลดอาการบวมเขียวช้ำ เพราะชุดกระชับจะทำหน้าที่กดทับในบริเวณที่เลือดออกและทำให้เลือดหยุดไหล ทำให้ลดอาการบวมช้ำได้

  • ช่วยลดการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์

  • ช่วยรีดน้ำเกลือที่ยังเหลือภายในร่างกาย

  • คนไข้ฟื้นตัวเร็ว ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น

  • ลดการเกิดก้อนแข็งเป็นไต หลังดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนไขมันใต้รักแร้

ดูดไขมันนมน้อย หรือ ก้อนไขมันใต้รักแร้ ที่ไหนดี

สำหรับใครที่อยากดูดไขมันนมน้อย  หรืออยากดูดไขมันบริเวณอื่นๆ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำการดูดไขมัน และเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ใครที่อยากดูดไขมันนมน้อย ที่ PHUMA CLINIC (ภูม่า คลินิก) ดูดไขมันโดยแพทย์ผู้ชำนาญมีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสมามากกว่า 20,000 เคส สามารถแอดไลน์มาสอบถามได้ที่ @phumaclinic ได้เลย

error: Content is protected !!