ดูดไขมันต้นแขน (Arms Liposuction)
“ดูดไขมันต้นแขน” (Arms Liposuction) คือ การกำจัดไขมันสะสมที่อยู่รอบๆต้นแขน เพื่อให้ต้นแขนมีขนาดเล็กลง ต้นแขนดูเรียวกระชับขึ้น ต้นแขนสมส่วนกับรูปร่าง ไม่อวบและไม่ย้วย อีกทั้งช่วยลดความหย่อนคล้อยของต้นแขน ซึ่งสาเหตุของการเกิดไขมันสะสมเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ระบบเผาผลาญไม่ดี หรือออกกำลังกายแล้วสัดส่วนที่แขนไม่ลดลง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาของผู้ที่มีต้นแขนที่ใหญ่ ฉะนั้นการดูดไขมันต้นแขน จึงเป็นวิธีลดแขนวิธีหนึ่ง ที่สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับรูปร่างของเราได้
บริเวณที่เราจะดูดไขมันออกมา คือ ต้นแขนส่วนหน้า, ต้นแขนส่วนหลัง (บริเวณท้องแขน) รวมไปถึงบริเวณด้านล่างของหัวไหล่ด้วย ส่วนต้นแขนด้านบนจะไม่ค่อยนิยมทำ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน
ดูดไขมันต้นแขน ส่วนไหนได้บ้าง?
การดูดไขมันแขน โดยแพทย์จะทำการประเมินแขนด้วยกัน 2 ส่วนคือ ดูดไขมันต้นแขน (รวมหัวไหล่และหลังแขน) และดูดไขมันใต้ท้องแขน หรือท้องแขนส่วนหลัง นอกจากนี้แพทย์อาจทำการดูดไขมันใต้รักแร้ (ดูดไขมันนมน้อย) หรือดูดไขมันปีกหลังร่วมด้วย เพื่อให้ครอบคลุมบริเวณแขนและส่วนที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ดูสมส่วนและสวยงามยิ่งขึ้น
ซึ่งการดูดไขมันต้นแขน ทำได้ไม่ยากและก็ไม่ได้ง่าย แต่ก็ต้องทำโดยแพทย์มืออาชีพ ศึกษาประวัติของแพทย์ (ความชำนาญและประสบการณ์) ให้ดีก่อนตัดสินใจดูดไขมัน เนื่องจาก
แขนด้วยความที่ใกล้หัวไหล่ ซึ่งมีกล้ามเนื้อมัดใหญ่อยู่ หากทำโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญและมีประสบการณ์ที่มากพอ อาจทำให้คนไข้เกิดความเจ็บได้ง่าย จากการที่อุปกรณ์ทิ่มโดนกล้ามเนื้อหัวไหล่ หรือเสี่ยงต่อการที่อุปกรณ์ทิ่มโดนเส้นเลือด หรือเส้นประสาทที่สำคัญ หรือผิวทะลุ ฯลฯ
ต้นแขนจะเป็นส่วนที่มีความแข็งและเหนียว ซึ่งอุปกรณ์ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การดูดไขมันต้นนั้นทำได้ง่ายขึ้นและเห็นผลลัพธ์ที่ดี แพทย์เองจึงเลือกใช้เครื่อง MicroAire PAL ซึ่งเป็นระบบสั่นในการนำมาดูดไขมันต้นแขน
ดูดไขมันต้นแขน เจ็บไหม?
โดยวิธีดูดไขมันต้นแขนในปัจจุบัน เป็นการดูดไขมันต้นแขนด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน โดยยาชาที่ผสมในน้ำเกลือลงไปนั้นจะช่วยลดความเจ็บปวด น้ำเกลือจะไปทำให้ไขมันแตกตัวและดูดไขมันออกได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีการดูดไขมันต้นแขนเป็นหลักที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้จนถึงทุกวันนี้ โดยแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ และสอดท่อเข้าไปในบริเวณที่ต้องการที่จะดูดไขมันออก
ดูดไขมัน “ต้นแขน” เจ็บไหม? การดูดไขมันต้นแขนเจ็บเฉพาะเวลาฉีดยาชา ซึ่งเป็นความเจ็บที่เกิดจากเข็มเพียงเล็กน้อย โดยแพทย์จะฉีดยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บขณะทำการดูดไขมัน เมื่อยาชาออกฤทธิ์แล้ว หลังจากนั้นในช่วงแรกไปถึงช่วงกลางๆ ของการดูดไขมัน คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ หรือแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย เมื่อดูดไขมันไปได้สักพักหนึ่ง ไขมันบริเวณที่ดูดใกล้หมดแล้ว แต่ยังมีไขมันที่ยังมีติดอยู่บ้างใกล้ๆกับผิวหนังและกล้ามเนื้อ เมื่อชั้นไขมันบางลง บริเวณนี้คนไข้อาจจะมีความรู้สึกเจ็บ หรือเจ็บแปลบๆ บ้างในบางครั้ง และไม่ตลอดเวลา
ดูดไขมันต้นแขน ต้องวางยาสลบไหม?
โดยทั่วไปการดูดไขมันต้นแขนมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ วิธีการดูดไขมันต้นแขนแบบดั้งเดิมโดยการใช้ยาสลบ และการดูดไขมันต้นแขนด้วยวิธีปัจจุบัน โดยการดูดไขมันต้นแขนด้วยเทคนิค Tumescent หรือการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่ชั้นไขมัน ซึ่งทั้งสองวิธีการมีผลข้างเคียงที่ต่างกัน โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ สภาพร่างกายของคนไข้ และจากการพิจารณาของแพทย์เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันการเลือกใช้วิธีการใช้ยาชาเฉพาะส่วน เป็นที่นิยมมากกว่าการใช้ยาสลบ เนื่องจากยาชามีผลข้างเคียงน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็ว คนไข้รู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหยุดหายใจ สามารถกลับบ้านได้เลยหลังการดูดไขมันเสร็จ เนื่องจากไม่มีสารออกฤทธิ์ที่กดการหายใจตกค้างในร่างกายของคนไข้
ดูดไขมันต้นแขน ที่ PHUMA CLINIC ด้วยเครื่อง MicroAire PAL?
MicroAire PAL เป็นการใช้วิธีการดูดไขมันโดยการสั่นสะเทือนรอบสูงจากท่อที่ดูดไขมัน เพื่อช่วยในการสลายไขมันให้แตกตัวออกจากกัน โดยไม่ใช้ความร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ และหลังจากนั้นเครื่องจะดูดไขมันออกมาอย่างอัตโนมัติด้วยระบบสั่น ทำให้ไขมันไหลออกมาได้ง่ายดาย เพราะความถี่ในการสั่นส่งผลให้ดูดไขมันได้ปริมาณมาก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงรอยฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ และช่วยลดการเสียดสีของผิวหนัง รวมไปถึงเนื้อเยื่อเคียงได้
ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเครื่อง MicroAire PAL
- ใช้เวลาน้อยในการดูดไขมัน
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก และดูดไขมันออกได้ง่าย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดไขมันได้ดี
- แผลเล็ก เจ็บน้อย หลังทำการดูดไขมันเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที
- สามารถดูดไขมันบริเวณที่เป็นพังผืดได้ และบริเวณที่ดูดยาก หรือ บริเวณที่เคยดูดมาก่อน
- ไม่เกิดความร้อนสะสม ไม่ทำให้เกิดผิวไหม้ ไม่เป็นคลื่น คล้ายเป็นเปลือกส้ม
ก่อนดูดไขมันต้นแขน ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ในปัจจุบันการดูดไขมันต้นแขน ถือเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายได้ เปลี่ยนหุ่นให้กระชับ ปรับรูปร่างให้ดูสวยงาม ฉะนั้นผู้ที่สนใจจะดูดไขมันต้นแขน ควรศึกษาข้อมูลและควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมัน เพื่อความปลอดภัยและทำให้เกิดผลการรักษาที่ดีกับคนไข้ การเตรียมความพร้อมต้องทำอย่างไรบ้าง
ต้องศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆ ศึกษากระบวนการรักษาทั้งตอนดูดไขมันและหลังดูดไขมัน
ก่อนจะเลือกดูดไขมัน ควรดูดไขมันกับแพทย์ที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น
ก่อนทำการดูดไขมันควรมีการตรวจเลือด เพื่อตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ภาวะการติดเชื้อ การแข็งตัวของเลือด ความสมดุลของสารน้ำในร่างกาย เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง
ควรวางแผนการพักฟื้นให้ดี หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำเกลือไหลซึมออกมาจากปากแผล แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลา 1-2 วัน เท่านั้น
ต้องเตรียมพร้อมร่างกายก่อนดูดไขมันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก คนไข้ต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเสริมต่างๆ และยากลุ่มแอสไพริน วิตามินอี ยาที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน แจ้งความกังวลกับแพทย์ว่าเรากังวลส่วนไหน ทำไมถึงอยากดูดไขมันบริเวณนี้ออก เพื่อประกอบการตัดสินใจของทั้งแพทย์และคนไข้
ก่อนทำการดูดไขมันต้องแจ้งแพทย์ว่ามีประวัติการแพ้ยาหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อป้องกันการแพ้ยาระหว่างการดูดไขมัน
ดูดไขมันต้นแขน มีขั้นตอนอย่างไร?
ขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขน สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจดูดไขมันต้นแขน ควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนการดูดไขมันและขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขน ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง การดูดไขมัน “ต้นแขน” เป็นการนำไขมันสะสมส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย จึงสามารถช่วยแก้ปัญหา ทำให้รูปร่างให้สมส่วน เสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจในการแต่งตัว
Phuma clinic เราจึงมี ขั้นตอนการดูดไขมันต้นแขน มาให้ผู้ที่จะเตรียมตัวดูดไขมันได้อ่านเพื่อให้ศึกษาก่อนมาดูดไขมันต้นแขน ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
1. การฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Tumescent)
แพทย์จะฉีดยาชาเพื่อเปิดแผล ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. หลังจากนั้นตัวยาชาและอะดรีนาลีนจะเข้าสู่บริเวณส่วนที่จะทำการดูดไขมันต้นขา ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคการดูดไขมันต้นขา ที่จะช่วยลดการสูญเสียเลือด เพิ่มความปลอดภัย และยังช่วยให้ดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย
2. ขั้นตอนการสลายชั้นไขมันต้นแขน
หลังจากใส่ยาชาจนทั่วบริเวณที่จะดูดไขมันแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนของการสลายไขมันด้วยคลื่นอัลตราซาวน์ เพื่อทำการสลายเซลล์ไขมันให้แตกออกโดยที่ไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น เส้นเลือด หรือเส้นประสาท เมื่อไขมันแตกสลายเป็นน้ำหมดแล้ว แพทย์จะทำการดูดไขมันออก โดยใช้เครื่องดูดไขมัน
3. ขั้นตอนหลังดูดไขมันต้นแขน
เมื่อดูดไขมันต้นแขนเสร็จแล้ว แพทย์จะเย็บแผล ซึ่งมีขนาดเล็กเย็บไม่เกิน 2 เข็ม เพราะการดูดไขมันต้นแขน แพทย์จะเปิดแผลเล็กมาก หลังการดูดไขมันน้ำเกลือจะไหลออกจากปากแผลไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง โดยแพทย์จะเย็บแผลให้ปิดไม่สนิท เพื่อต้องการให้ระบายน้ำเกลือและยาชาที่เหลือออกจากร่างกาย และยังช่วยลดอาการบวม ยุบบวมได้อย่างรวดเร็ว หลังการรักษาคนไข้ต้องดูแลแผลให้เป็นอย่างดี ควรหลีกเลี่ยงห้ามให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาดจนกว่าจะตัดไหม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
หลังดูดไขมันต้นแขน ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร?
การปฏิบัติตัวหลังจากการดูดไขมันต้นแขน การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันก็เป็นสิ่งสำคัญ และยังสามารถช่วยให้แผลจากการดูดไขมันหายเร็วขึ้น การดูแลตัวเองหลังการดูดไขมันมีข้อปฏิบัติตัวต่าง ๆ ดังนี้
ควรดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
แผลเย็บด้วยไหมชนิดต้องตัดออก ต้องดำเนินการตัดโดยแพทย์ โดยจะนัดตัดไหมที่ 1 สัปดาห์
งดการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด และสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้หลังการดูดไขมันได้ 3 สัปดาห์ และ ออกกำลังกาย หนักได้หลังการดูดไขมันต้นขาได้ 6 สัปดาห์
อาการบวม ช้ำ และอาการปวด จะดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อาการบวมจะเป็นนานมากที่สุด ซึ่งอาจจะนานถึง 3 เดือน
งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า
ควรทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน โดยแผลห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 7 วัน ตามคำแนะนำของแพทย์
หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อนให้เพียงพอ และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันอาการบวมช้ำ
งดอาบน้ำหลังจากดูดไขมัน โดยแนะนำเป็นการอาบน้ำในวันถัดไป และควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ
ในช่วง 1 เดือนแรกควรสวมชุดกระชับเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ให้ถอดได้เฉพาะเวลาอาบน้ำ หรือ วันละ 1-2 ชม. ในเดือนที่ 2-3 ให้ใส่วันละ 12 ชม. ทั้งนี้เพื่อให้ผิวหนังมีความกระชับ ได้รูปที่สวยงามสวมหลังจากนั้นจึงค่อยลดลงตามความเหมาะสม ตามคำแนะนำของแพทย์
รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันทุกวันจนหมด ควรรับประทานยาแก้ปวด และยาลดอาการบวม เมื่อมีอาการเท่านั้น
ทำไมต้องเลือก ดูดไขมันต้นแขน ที่ PHUMA CLINIC
Phuma clinic มีแพทย์ผู้ชำนาญประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสดูดไขมันมากกว่า 20,000 เคส โดยออกแบบรูปร่างและสัดส่วนที่คุณต้องการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
เรามีเทคโนโลยีในการดูดไขมันระดับแนวหน้า ที่มีประสิทธิภาพสูง ผลข้างเคียงน้อย
คลินิกสะอาด ปลอดภัย ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน เครื่องมือทันสมัย
ดูแลลูกค้าต่อเนื่องหลังเข้ารับบริการระดับมืออาชีพ
บริการด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ จริงใจ ตรงไปตรงมา ให้ความชัดเจนกับลูกค้า และให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ
การใส่ชุดกระชับ หลังดูดไขมัน "สำคัญ" อย่างไร?
การดูดไขมันต้นแขน ออกมานั้นเป็นการกำจัดไขมันที่สะสมอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง โดยจะอยู่ระหว่างผิวหนังกับกล้ามเนื้อ ดังนั้นหลังจากที่เราดูดไขมันต้นแขนออกมาแล้ว จึงเกิดช่องว่างภายใต้ผิวหนังเกิดขึ้น ช่องว่างนี้จะมีลักษณะเป็นโพรง เราจึงต้องรีบปิดช่องว่างนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังอยู่ในสภาวะย้วยหรือหย่อนคล้อย
การใส่ชุดกระชับบริเวณต้นแขน เป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองหลังดูดไขมันที่สำคัญมาก เพราะสัดส่วนของเราจะเข้าที่เร็วขึ้นหรือช้าขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสวมชุดกระชับสัดส่วนด้วย ยิ่งสวมนานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผิวหนังติดกับชั้นกล้ามเนื้อได้เร็วเท่านั้น
ประโยชน์ของชุดกระชับ
ช่วยลดผลข้างเคียงจากการดูดไขมันต้นแขน
ลดอาการบวมเขียวช้ำ เพราะชุดกระชับจะทำหน้าที่กดทับในบริเวณที่เลือดออกและทำให้เลือดหยุดไหล ทำให้ลดอาการบวมช้ำได้
ช่วยลดการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์
ช่วยรีดน้ำเกลือที่ยังเหลือภายในร่างกาย
คนไข้ฟื้นตัวเร็ว ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
ลดการเกิดก้อนแข็งเป็นไต หลังดูดไขมันต้นแขน
ดูดไขมันต้นแขน ที่ไหนดี
สำหรับใครที่อยากดูดไขมันต้นแขน หรืออยากดูดไขมันบริเวณอื่นๆ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนการดูดไขมัน และเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินการรักษาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ ใครที่อยากดูดไขมันต้นแขนที่ PHUMA CLINIC (ภูม่า คลินิก) ดูดโดยแพทย์ผู้ชำนาญมีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 10 ปี ประสบการณ์ทำเคสมามากกว่า 20,000 เคส สามารถแอดไลน์มาสอบถามได้ที่ @phumaclinic ได้เลย